พระเกศแก้วจุฬามณี     พระศรีอริยเมตไตรย     มณฑปครอบรอยพระบาทพระสิทธัตถะ     รอยพระพุทธบาท

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551

รอยพระพุทธบาท



ขณะที่สร้างพระเกศแก้วจุฬามณีนั้นเป็นเวลาหลายครั้งหลายคืน ชาวบ้านที่มาช่วยกันขนปูนทรายก็ได้เห็นว่ามีแสงรัศมีสีเขียวนวลพุ่งขึ้นมาจากด้านหลังของพระเกศแก้วหรือทางทิศเหนือ

วันหนึ่งขณะที่หลวงพ่อพลอย เตชพโล สร้างพระเกศแก้ว ได้มีพระเพื่อนของหลวงพ่อพลอย ได้เดินทางปฏิบัติธรรมเจริญภาวนาบนยอดเขาภูคา ท่านเดินไปเห็นมีอ่างน้ำขนาดเล็กๆซึ่งมีดอกบัวสีม่วงขึ้นอยู่ในอ่าง จึงได้ปักกลดอยู่บริเวณนั้น จึงนิมิตเห็นภาพคล้ายรอยพระพุทธบาท จึงมาขอแรงชาวบ้านมาขุดและล้างทำความสะอาดโกยดินออกหมดเห็นรอยเท้ามี 5 นิ้วจึงแน่ในว่าต้องเป็น "รอยพระพุทธบาท" ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยลักษะนั้นทรงเหยียบที่ใดแม้โรยฝุ่นขาวก็จะไม่ปรากฏรอยให้เห็น แต่ถ้าประสงค์จะให้ปรากฏรอยแม้หินผาหรือแผ่นเหล็กก็จะอธิษฐานให้ปรากฏได้ ใหญ่เล็กตามปราถนา ด้วยเหตุนี้หลังจากนั้นหลวงพ่อพลอยได้ถ่ายภาพรอยพระพุทธบาทที่พบไปให้กรมศิลปากรพิสูจน์ว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่แท้จริงหรือไม่ ปรากฏว่า เป็นรอยพระพุทธบาทถูกต้องตามพุทธลักษณะ จึงขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกแผ่นดินว่าเป็น "รอยพระพุทธบาทหินเป็นตามธรรมชาติ"